Title : TBN พร้อมเทรด 19 มิ.ย.นี้ โบรกฯ ให้เป้า 33 - 36 บ.

2023-06-16 By. Admin [View 674]

​"ปนายุ ศิริกระจ่างศรี" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ทีบีเอ็น คอร์ปอเรชั่น (TBN) เปิดเผยว่า พร้อมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) วันแรก 19 มิ.ย.นี้ มั่นใจเหนือจอง หลังช่วงจองซื้อหุ้นไอพีโอเมื่อ 12-14 มิ.ย.ที่ผ่านมา นักลงทุนให้ความสนใจมากกว่าจำนวนหุ้นที่เสนอขาย สะท้อนความเชื่อมั่นพื้นฐานบริษัทที่แข็งแกร่ง มีแนวโน้มการเติบโตตามกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยี ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมแห่งอนาคต โดยปัจจุบันบริษัทถือเป็นผู้นำ Low-Code แพลตฟอร์มของไทย

​ปัจจุบันบริษัทเป็นตัวแทนจำหน่ายลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ MENDIX ของ Siemens รายแรกในประเทศไทยและปัจจุบันมีเพียงรายเดียว รวมถึงยังมีการให้บริการแบบ High-Code และแบบ Hybrid นอกจากนี้ยังมีการให้บริการในส่วนของระบบ Cloud ด้วย

​ธุรกิจของบริษัทแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ คือ 
1.งานพัฒนาระบบและงานบริการเกี่ยวเนื่องแบบครบวงจร ได้แก่ งานพัฒนาระบบดิจิทัล (Digital Solution Services) งานสนับสนุนและบำรุงรักษาระบบ (Technical Support and Maintenance) และงานให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการพัฒนาซอฟต์แวร์ต่อยอดจากที่ได้พัฒนาและติดตั้งลงบนระบบของลูกค้า (Technical Consultancy Services)
​
2.งานสนับสนุนด้านเทคโนโลยี ได้แก่ การให้ใช้สิทธิ์โปรแกรม MENDIX (MENDIX License) และการให้บริการคลาวด์ (Cloud Services) โดยให้บริการให้เช่าพื้นที่บนคลาวด์จากผู้ให้บริการคลาวด์ ซึ่งการให้บริการส่วนใหญ่เป็นสัญญาระยะยาวและมีงานบริการบำรุงรักษาระบบ, การให้ใช้สิทธิ์โปรแกรม MENDIX และการให้บริการคลาวด์ เป็นรายได้ประจำ (Recurring Income) ต่อเนื่อง

​สำหรับสัดส่วนลูกค้าของบริษัท แบ่งเป็นเอกชน 90% เช่น กลุ่มธนาคาร, สถาบันการเงิน, บริษัทประกันชีวิต, บริษัทประกันภัย, โบรกเกอร์, กลุ่มขายปลีก (Retail), กลุ่ม Telco และกลุ่มการผลิต (Manufacturing) เป็นต้น ส่วนที่เหลือเป็นหน่วยงานรัฐ 10%

​ส่วนเงินระดมทุนที่ได้จากการขายหุ้นไอพีโอครั้งนี้ จะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการขยายธุรกิจ รองรับ Digital Transformation ที่มีแนวโน้มสูงขึ้น รวมถึงใช้ในการเพิ่มจำนวนบุคลากร การพัฒนาระบบและสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เพื่อรองรับจำนวนโครงการและจำนวนบุคลากรที่เพิ่มมากขึ้น อีกทั้งรองรับการรับงานที่เพิ่มมากขึ้น ลงทุน Eco System MENDIX Academy Community ในประเทศไทย เพื่อเพิ่มศักยภาพและให้ผู้ใช้งานมั่นใจมากขึ้นกับเทคโนโลยีดังกล่าว เป็นต้น

​ด้าน บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคจีไอ (ประเทศไทย) ประเมินราคาเหมาะสมที่ 35.25 บาท อิง Forward PE ที่ 30.9 เท่า คาดกำไรสุทธิปี 66-68 จะเติบโตเฉลี่ยระดับ 48% ต่อปี ซึ่งจะมาจากการเติบโตของรายได้ในทุกกลุ่มธุรกิจ

​ส่วนบทวิเคราะห์ จาก บล.บียอนด์ ประเมินราคาเหมาะสมที่ 33 - 36 บาท คำนวณด้วย PER multiple ที่ 30-32 เท่า สะท้อน PEG ระดับ 1 เท่า โดยประเมินกำไรสุทธิปี 66 - 68 ที่ 110 ล้านบาท, 145 ล้านบาท และ 173 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ย 67% ต่อปี

TAGS :