ข่าวตลาดทุน

Title : ไซโน โลจิสติกส์ฯ (SINO) เคาะราคาไอพีโอ 1.40 บ. จองซื้อ 13-15 ก.ย. พร้อมเทรด SET 20 ก.ย.นี้

2023-09-11 By. Admin [View 807]

ไซโน โลจิสติกส์ฯ (SINO) เคาะราคาไอพีโอ 1.40 บาท เปิดจองซื้อ 13-15 ก.ย.นี้ คาดเข้าเทรด SET ใน 20 ก.ย.66 ระดมทุนต่อยอดธุรกิจขึ้นเป็นหนึ่งในผู้นำโลจิสติกส์ครบวงจรของไทย ชูราคาไอพีโอคิดระดับ P/E เพียง 6.9 เท่า มั่นใจนักลงทุนตอบรับล้น

สมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟินันเซีย ไซรัส ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ของ บริษัท ไซโน โลจิสติกส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SINO เปิดเผยว่า กำหนดราคาเสนอขายหุ้นไอพีโอจำนวน 292 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 1.40 บาทต่อหุ้น โดยจะเปิดให้นักลงทุนจองซื้อระหว่างวันที่ 13-15 ก.ย.นี้ และคาดว่าจะนำหลักทรัพย์เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) วันที่ 20 ก.ย.66  ในหมวดธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์

​SINO ดำเนินธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ การกำหนดราคาไอพีโอถือเป็นระดับที่เหมาะสม คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E) เท่ากับ 6.90 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) อื่นที่มีธุรกิจใกล้เคียงกัน ซึ่งอยู่ที่เฉลี่ย 9.6 เท่า สอดคล้องกับสถานการณ์อุตสาหกรรมขนส่งทางเรือ และปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของบริษัทฯ จากการเป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์ระหว่างประเทศแบบครบวงจร ที่มีความชำนาญในเส้นทางขนส่งทางทะเลในเส้นทางไทย-สหรัฐ ซึ่งเป็นตลาดส่งออกใหญ่ที่สุดของประเทศไทย

​รวมถึงมีศักยภาพการเติบโตในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นแผนการขยายการให้บริการรับฝากตู้สินค้าคอนเทนนเนอร์ รวมทั้งแผนการลงทุนกับพันธมิตร และการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตในทุกมิติ พร้อมทีมผู้บริหารที่มีความเชี่ยวชาญ ประกอบกับภาวะอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ ที่กำลังกลับมาสดใส ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ ทั้งค่าระวางเรือที่ขยับตัวสูงขึ้น รวมทั้งเป็นช่วง High Season ของธุรกิจส่งออก จึงมั่นใจว่าจะเป็นหลักทรัพย์ที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน

​ทั้งนี้ มีผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายอีก 7 แห่ง ประกอบด้วย บล.กรุงศรี พัฒนสิน, บล.โกลเบล็ก, บล.เคจีไอ (ประเทศไทย), บล.ดาโอ (ประเทศไทย), บล.บียอนด์, บล.เอเซีย พลัส และ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย)

​ด้าน "จิรยง อนุมานราชธน" กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจย์ แคปปิตอล แอดไวเซอรี จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน ระบุว่า SINO เป็นบริษัทฯ ที่มีพื้นฐานการดำเนินธุรกิจที่แข็งแกร่ง เนื่องจากมี OTI License และได้วางหลักประกัน FMC Bond ทำให้สามารถบริหารจัดการขนส่งสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนมีแผนเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันด้านการให้บริการเพื่อรองรับแผนขยายฐานลูกค้าในภูมิภาคอาเซียน และการขยายพื้นที่ตู้รับฝากตู้คอนเทนเนอร์เพิ่มเติมในจังหวัดระยอง ซึ่งจะช่วยผลักดันการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน

​ขณะที่ "นันท์มนัส วิทยศักดิ์พันธ์" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SINO เปิดเผยว่า การเดินหน้าเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สะท้อนถึงความพร้อมและความมุ่งมั่นของบริษัท บนเส้นทางการดำเนินธุรกิจกว่า 10 ปี บริษัทฯ เป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์ระหว่างประเทศแบบครบวงจร จากการให้บริการจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ (Freight Forwarder) ทั้งทางทะเล ทางอากาศ และทางบก รวมถึงการให้บริการให้เช่าคลังสินค้า การให้บริการด้านพิธีการศุลกากร และการให้บริการสนับสนุนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับโลจิสติกส์เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดในการให้บริการขนส่งสินค้าตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทางทั่วโลก

​บริษัทฯ มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์มายาวนาน ด้วยความชำนาญการให้บริการบนเส้นทางขนส่งสินค้าระหว่างประเทศทางทะเลมากกว่า 100 ประเทศ ครอบคลุมเส้นทางไทย-โซนอเมริกาเหนือ เส้นทางไทย-เอเชีย และเส้นทางไทย-ยุโรป ซึ่งถือเป็นเส้นทางหลักในการส่งออกและนำเข้าสินค้าหลักของการค้าโลก ทั้งรูปแบบการขนส่งแบบเต็มตู้และแบบไม่เต็มตู้คอนเทนเนอร์ ด้วยมาตรฐานการให้บริการที่มีคุณภาพ มีประสิทธิภาพและตรงต่อเวลา

​ทั้งนี้ SINO มีเป้าหมายเป็นหนึ่งในผู้นำการให้บริการโลจิสติกส์แบบครบวงจรและขยายความครอบคลุมไปยังภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากแผนกลยุทธ์ต่อยอดความชำนาญการให้บริการขนส่งทางทะเลในเส้นทางสหรัฐ เพื่อขยายฐานลูกค้าไปยังประเทศเวียดนาม มาเลเซีย กัมพูชาและอินโดนีเซีย ซึ่งจะช่วยเพิ่มปริมาณการขนส่งสินค้าทางทะเลให้มากขึ้น รวมถึงแผนเข้าร่วมลงทุนกับพันธมิตรที่ประกอบธุรกิจ Freight Forwarding ทั้งในประเทศและกลุ่มประเทศอาเซียนและลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง ควบคู่กับการลงทุนขยายพื้นที่ให้บริการรับฝากตู้สินค้าคอนเทนเนอร์เพิ่มเติม อันจะส่งเสริมขีดความสามารถการแข่งขันการให้บริการโลจิสติกส์ในระยะยาวให้ดียิ่งขึ้น เพิ่มโอกาสในการเติบโต และสร้างผลตอบแทนที่ดีแก่ผู้ถือหุ้นอย่างมั่นคงในระยะยาว

TAGS :

ข่าวที่เกี่ยวข้อง